พักสายตา ภาษาอังกฤษ: วิธีส่องโลกใหม่อย่างไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือ

พักสายตาคืออะไร?

พักสายตาหมายถึงการให้ดวงตาพักผ่อนหรือพักผ่อนจากการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โทรทัศน์ ฯลฯ เป็นต้น การใช้งานหน้าจอเป็นเวลานานๆ อาจทำให้ดวงตารู้สึกเมื่อยล้า และอาจเกิดอาการตาแห้ง ตาแดง หรือปวดตาได้ ดังนั้นการพักสายตาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเพื่อรักษาสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง [2].

วิธีการพักสายตา

1. การพักผ่อนดวงตาโดยใช้กึ่งเวลา: ในช่วงที่ใช้งานหน้าจอเป็นเวลานานๆ ควรพักผ่อนดวงตาให้เป็นระยะเวลาสั้นๆ โดยใช้กึ่งเวลา ตัวอย่างเช่น ใช้หลักการ 20-20-20 คือ ให้พักผ่อนดวงตาในระยะเวลา 20 วินาที ทุกๆ 20 นาที โดยมองไปที่ระยะที่ห่างออกไป 20 ฟุตหรือประมาณ 6 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถใช้หลักการ 10-10-10 คือ พักผ่อนดวงตาในระยะเวลา 10 วินาที ทุกๆ 10 นาที โดยมองไปที่ระยะที่ห่างออกไป 10 ฟุตหรือประมาณ 3 เมตร ก็เพียงพอที่จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาได้ [2].

2. การปรับแสงหน้าจอ: การปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมสามารถช่วยลดการเมื่อยล้าของดวงตาได้ ควรปรับระดับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหน้าจอในที่ที่มีแสงสว่างจ้า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟิล์มกรองแสงหน้าจอ (screen filter) หรือแว่นตาที่มีความสามารถในการกรองแสงบางส่วนได้เช่นกัน [2].

3. การออกกพักสายตาคืออะไร?

พักสายตาหมายถึงการให้ดวงตาพักผ่อนหลังจากใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในระยะเวลานานๆ การใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นประจำอาจทำให้ดวงตารู้สึกเมื่อยล้า และมีอาการอื่นๆ เช่น ตาแห้ง ตาแดง หรือความรู้สึกว่ามองสิ่งต่างๆ ไม่ชัดเจน [2].

วิธีการพักสายตา

1. การพักผ่อนดวงตาโดยใช้กึ่งเวลา: ในระหว่างการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ควรพักผ่อนดวงตาโดยใช้กึ่งเวลา โดยตั้งเวลาให้พักสายตาทุก 20-30 นาที โดยมองไกลในระยะไกลเพื่อให้ดวงตาได้พักผ่อน [2].

2. การเล่นการ์ดสี: การเล่นการ์ดสีเป็นวิธีการพักสายตาที่น่าสนุกและง่ายที่สามารถทำได้ทุกที่ โดยการเล่นการ์ดสีจะช่วยให้ดวงตาได้พักผ่อนจากการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ [2].

3. การออกกำลังกายสำหรับดวงตา: การออกกำลังกายสำหรับดวงตาเป็นวิธีการที่ดีในการพักสายตา โดยการออกกำลังกายสำหรับดวงตาจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในดวงตาและช่วยให้ดวงตาแข็งแรง [2].

4. การใช้เทคนิค 20-20-20: เทคนิค 20-20-20 หมายถึงการพักสายตาทุก 20 นาที โดยมองไกลในระยะไกลที่มีระยะทางประมาณ 20 ฟุต (6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที ซึ่งจะช่วยให้ดวงตาได้พักผ่อนและคลายเครียด [2].

5. การปรับแสงหน้าจอ: การปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมสามารถช่วยลดการเมื่อยล้าของด

Learn more:

1. พักสายตา แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
2. ทริคง่ายๆ พักสายตา เพื่อช่วยถนอมดวงตา
3. เคล็บลับการพักสายตาระหว่างทำงาน | โรงพยาบาลเปาโล – Paolo Hospital

สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ต้องพักสายตา

การพักสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง และป้องกันอาการตาล้าที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สายตาอย่างหนักต่อเนื่อง ดังนั้น เราควรทราบถึงสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ต้องพักสายตา เพื่อให้เราสามารถป้องกันและรักษาสุขภาพดวงตาได้อย่างเหมาะสม [1].

สาเหตุที่ทำให้ต้องพักสายตามีหลายปัจจัย ดังนี้:

1. การใช้สายตาอย่างต่อเนื่อง: การใช้สายตาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่มีการพักสายตาอาจทำให้เกิดอาการตาล้า ตัวอย่างเช่นการใช้สายตาในการทำงานที่ต้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การอ่านหนังสือหรือเพ่งมองบางอย่างเป็นเวลานาน หรือการขับรถทางไกล [1].

2. สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม: สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ต้องพักสายตา เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ การนั่งใกล้พัดลมหรือเครื่องปรับอากาศที่พัดลมถูกใบหน้าโดยตรง ซึ่งอาจทำให้ตาแห้งมากขึ้น [1].

3. ปัญหาทางสายตา: ปัญหาทางสายตาเช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ตาเขหรือตาเหล่ (Muscle Imbalance) หรือสวมแว่นสายตาและคอนแทคเลนส์ที่ค่าสายตาไม่เหมาะกับตัวเอง อาจทำให้ต้องพักสายตาบ่อยขึ้น [1].

4. การใช้โต๊ะทำงานที่ไม่เอื้อต่อการทำงาน: การใช้โต๊ะทำงานที่ไม่เอื้อต่อการทำงานอาจทำให้ต้องพักสายตา เช่น จอคอมพิวเตอร์ไม่พอดีกับระดับสายตา และเก้าอี้ทำงานที่คสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ต้องพักสายตา

การพักสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพตาให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เราใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องเข้าใจสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ต้องพักสายตา เพื่อป้องกันอาการตาล้าและปัญหาสายตาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

สาเหตุที่ทำให้ต้องพักสายตา:

1. การใช้สายตาอย่างต่อเนื่อง: การใช้สายตาอย่างต่อเนื่องเช่นการทำงานหนักหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาจทำให้ตาล้าและตาแห้ง [1].
2. การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน อาจทำให้ตาล้าและตาแห้ง [1].
3. สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม: แสงสว่างไม่เพียงพอหรือแสงไฟกะพริบที่หน้าจอ อาจทำให้ตาล้าและตาแห้งมากขึ้น [1].
4. ปัญหาทางสายตา: สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ตาเขหรือตาเหล่ (Muscle Imbalance) หรือสวมแว่นสายตาและคอนแทคเลนส์ที่ค่าสายตาไม่เหมาะกับตัวเอง อาจทำให้ต้องพักสายตาบ่อยขึ้น [1].
5. การใช้โต๊ะทำงานที่ไม่เอื้อต่อการทำงาน: จอคอมพิวเตอร์ไม่พอดีกับระดับสายตา และเก้าอี้ทำงานที่ความสูงไม่พอดีกับโต๊ะ อาจทำให้ต้องนั่งหลังงอหรือก้มหน้าเพื่อมองจอที่ไม่ตรงกับระดับสายตา ซึ่งอาจทำให้ปวดตา คอ ไหล่ และหลัง [1].
6. ความเครียดและร่า

Learn more:

1. สาเหตุของอาการตาล้า และวิธีถนอมดวงตา – พบแพทย์
2. 10 วิธี ดูแลสายตาให้ดี – โรงพยาบาลสินแพทย์
3. เคล็บลับการพักสายตาระหว่างทำงาน | โรงพยาบาลเปาโล – Paolo Hospital

วิธีการพักสายตาให้เห็นผลดี

การพักสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพดวงตาให้ดีและป้องกันอาการเหนื่อยตา ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นประจำในชีวิตประจำวัน การพักสายตาเหมาะสมจะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา ลดอาการตาพร่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการเห็นได้ ดังนั้น นี่คือวิธีการพักสายตาให้เห็นผลดีที่คุณสามารถทำได้:

1. พักผ่อนให้เพียงพอ: ให้ตัวเองพักผ่อนจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลาพอสมควร ควรใช้เทคนิค 20-20-20 โดยหมายถึงให้พักสายตาให้หยุดพักเป็นเวลา 20 วินาที ทุกๆ 20 นาที โดยมองไปที่ระยะที่อยู่ไกลเพื่อให้ดวงตาได้พักผ่อน [1].

2. ปรับแสงสว่างให้เหมาะสม: ควรปรับแสงสว่างในห้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ควรให้แสงสว่างเป็นจุดสว่างเกินไปหรือมีการสะท้อนที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอที่มีความสว่างสูงเป็นเวลานาน [1].

3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังดวงตา ซึ่งสามารถช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดวงตาได้ [2].

4. ใช้แว่นตากันแสง: การใช้แว่นตากันแสงสามารถป้องกันดวงตาจากการรบกวนของแสงสว่างที่มาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือได้ แว่นตากันแสงยังช่วยลดการเสื่อมสภาพของดวงตาจากแสง UV ที่อาจวิธีการพักสายตาให้เห็นผลดี

การพักสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพดวงตาให้เห็นผลดีตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้เวลานานในการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้สายตารู้สึกอ่อนเพลีย มองไม่ชัดเจน หรือมีอาการตาพร่าได้ ดังนั้น เพื่อรักษาสุขภาพดวงตาให้ดี นี่คือวิธีการพักสายตาที่คุณสามารถทำได้:

1. พักผ่อนให้เพียงพอ: ให้ตัวเองพักผ่อนจากการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ให้เพียงพอ โดยทำการหยุดพักสายตาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ทุก ๆ 30 นาที และใช้เทคนิค 20-20-20 ซึ่งหมายถึงการมองออกจากหน้าจอแล้วมองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที [1].

2. ปรับแสงสว่างให้เหมาะสม: ใช้แสงสว่างที่เหมาะสมในการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ โดยปรับระดับความสว่างให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และหลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างสูงเกินไป [1].

3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังดวงตา ซึ่งสามารถช่วยบำรุงสายตาและลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้ [2].

4. ใช้เทคนิค 20-20-20: เทคนิคนี้คือการมองออกจากหน้าจอแล้วมองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที ทำเ

Learn more:

1. 7 วิธีถนอมสายตาจากคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ สำหรับชาวออฟฟิศ
2. 10 วิธี ดูแลสายตาให้ดี – โรงพยาบาลสินแพทย์
3. รวม 10 วิธีดูแลและบำรุงสายตา เพราะสุขภาพตาสำคัญกว่าที่คิด!!!

เทคนิคและกิจกรรมที่ช่วยในการพักสายตา

การดูแลสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เป็นประจำในชีวิตประจำวัน อาจทำให้สายตารับแรงกดที่มากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตาพร่า ตาล้า หรือปวดตาได้ ดังนั้น เราควรมีเทคนิคและกิจกรรมที่ช่วยในการพักสายตาเพื่อรักษาสุขภาพตาให้ดี ดังนี้:

1. พักผ่อนสายตา: ให้ตัวเองพักผ่อนสายตาอย่างน้อยทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง โดยหันหน้าออกไปที่ทิศตะวันตกหรือทิศตะวันออก เพื่อให้ตาได้พักผ่อนจากแสงสว่างที่เป็นภาวะที่ตาต้องใช้พลังงานมาก [1].

2. การออกกำลังกายสำหรับสายตา: การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ระบบตาและร่างกายแข็งแรง ทำให้เลือกกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้สายตามาก เช่น การเดินเร็ว การวิ่งเล่น หรือการว่ายน้ำ [1].

3. การใช้แว่นตาที่เหมาะสม: การสวมแว่นตาที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันการเสียสายตาจากแสงแดดและรังสี UV ที่อาจเป็นอันตรายต่อสายตา [1].

4. การปรับแสงหน้าจอ: ปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะสม เพื่อลดการเมื่อยล้าของตา โดยปรับให้ความสว่างของหน้าจอไม่สูงเกินไป [2].

5. การใช้ตัวช่วยสายตา: หากมีปัญหาสายตา เช่น ตาสั้น ตาสองตาไม่เท่ากัน หรือต้องใช้แว่นตา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำและการตรวจสอบสายตาอย่างเหมาะสม [2].

6. การรักษาสเทคนิคและกิจกรรมที่ช่วยในการพักสายตา

การดูแลสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เป็นประจำในชีวิตประจำวัน อาจทำให้สายตารับแสงและการใช้งานต่าง ๆ มีการต่อสู้กับแสงสะท้อน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยตา ตาแห้ง ตาพร่า หรือปวดตาได้ ดังนั้น เราควรมีเทคนิคและกิจกรรมที่ช่วยในการพักสายตาเพื่อรักษาสุขภาพตาให้ดี ดังนี้:

1. พักผ่อนสายตา: ให้ตัวเองพักผ่อนสายตาอย่างน้อยทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง โดยหันหน้าออกไปที่ทิศตะวันตกหรือทิศตะวันออก เพื่อให้ตาได้พักผ่อนจากแสงสะท้อนของหน้าจอ [1].

2. การออกกำลังกายสำหรับสายตา: การออกกำลังกายเป็นประโยชน์ไม่เพียงแค่สำหรับร่างกาย แต่ยังสามารถช่วยในการพักสายตาได้ด้วย การออกกำลังกายเช่นการเดินเร็วหรือวิ่งเล่นกีฬาช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังตา และช่วยลดความเครียดที่สามารถส่งผลต่อสายตาได้ [1].

3. การใช้แว่นตาที่เหมาะสม: การสวมแว่นตาที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันสายตาจากแสงแดดและรังสี UV ที่อาจเป็นอันตรายต่อสายตาได้ นอกจากนี้ การใช้แว่นตาที่ถูกต้องสามารถช่วยปรับปรุงการมองเห็นและลดความเมื่อยล้าของสายตาได้ [1].

4. การใช้หน้าจออย่างถูกต้อง: เมื่อใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ควรปรับความสูงของหน้าจอให้เหมาะสม โดยให้หน้าจออยู

Learn more:

1. 10 วิธี ดูแลสายตาให้ดี – โรงพยาบาลสินแพทย์
2. 10 วิธีถนอมสายตาจากการเล่น คอมพ์-แท็บเล็ต-สมาร์ทโฟน
3. 8 เคล็ดลับที่ไม่ลับช่วยถนอมสายตาให้อยู่กับเรานานๆ | Firstclinic49

คำแนะนำในการดูแลสายตาในชีวิตประจำวัน

สายตาเป็นอวัยวะที่สำคัญและควรรักษาอย่างดีในชีวิตประจำวัน เนื่องจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่มีหน้าจอเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวัน อาจทำให้สายตาเสื่อมสภาพได้ ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อดูแลสายตาให้เป็นอย่างดี:

1. พักผ่อนสายตา: ให้สายตาพักผ่อนเมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน ควรหยุดพักสายตาเป็นระยะเพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา [1].

2. ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังดวงตา ซึ่งช่วยในการบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงของโรคตา [1].

3. รับประทานอาหารที่เหมาะสม: การบริโภคอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสายตา เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ เนื้อปลา และอาหารที่มีไขมันดี เช่น ปลาทะเล สามารถช่วยบำรุงสายตาได้ [1].

4. ใช้แว่นตาที่เหมาะสม: สวมแว่นตากันแดดที่มีความป้องกันรังสี UV เพื่อปกป้องสายตาจากการสัมผัสกับรังสีแสงแดดที่อาจเสียหายสายตาได้ [1].

5. พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนให้เพียงพอช่วยลดความเครียดและความเมื่อยล้าของสายตา โดยหลีกเลี่ยงการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน [1].

6. ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ: ควรตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจหาโรคตาและรักษาคำแนะนำในการดูแลสายตาในชีวิตประจำวัน

สายตาเป็นอวัยวะที่สำคัญและควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในชีวิตประจำวัน เนื่องจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมออาจทำให้สายตารับความเครียดและเสื่อมสภาพได้ ดังนั้น เพื่อรักษาสายตาให้แข็งแรงและสมบูรณ์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

1. พักผ่อนสายตา: ให้สายตาพักผ่อนอย่างเพียงพอโดยหยุดพักจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง และใช้เทคนิค 20-20-20 โดยทุก ๆ 20 นาทีให้หันหน้ามองไกลออกไปที่จุดที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 ฟุตเป็นเวลา 20 วินาที [1].

2. รับประทานอาหารที่เพิ่มประสิทธิภาพสายตา: อาหารที่มีสารอาหารเสริมสำคัญสำหรับสายตา เช่น ผักใบเขียวเข้มสี เช่น ผักคะน้า ผักกาดขาว และผักบุ้งจีน ซึ่งมีสารลูทีน และวิตามิน A ที่ช่วยในการบำรุงสายตา [1].

3. สวมแว่นตากันแดด: การสวมแว่นตากันแดดที่มีความป้องกันรังสี UV สามารถช่วยปกป้องสายตาจากการเสื่อมสภาพที่เกิดจากแสงแดด [1].

4. พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา โดยการนอนพักตาหรือทำกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้สายตามาก [1].

5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับดวงตา และลดอาการตาแห้ง [1].

6. พักสายตาเป็นระยะ: เมื่อต้องใช้สายตาเป็นเวลานา

Learn more:

1. 10 วิธี ดูแลสายตาให้ดี – โรงพยาบาลสินแพทย์
2. 10 วิธีถนอมสายตาจากการเล่น คอมพ์-แท็บเล็ต-สมาร์ทโฟน
3. ถนอมสายตาอย่างไรไม่ให้เสื่อมก่อนวัย – พบแพทย์