คำว่าตู้เย็นในภาษาอังกฤษ : สาระน่ารู้จาก Chris Jobs (21 ก.พ. 64)
Keywords searched by users: เครื่องทำความเย็นภาษาอังกฤษ: การทำความเย็นให้สะดวกสบาย ตู้เย็นภาษาอังกฤษ, แอร์ ภาษาอังกฤษ
เครื่องทำความเย็นในภาษาอังกฤษ: แนวความคิด
เครื่องทำความเย็นในภาษาอังกฤษ: แนวความคิด
เครื่องทำความเย็น (Refrigeration System) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการลดอุณหภูมิของสิ่งของหรือสิ่งต่างๆ ให้เย็นลง โดยใช้หลักการถ่ายเทความร้อนออกไปจากสิ่งของนั้น ๆ ซึ่งทำให้สิ่งของเย็นลง และสามารถเก็บรักษาสิ่งของได้นานขึ้น การทำความเย็นนี้มีความสำคัญในหลายภาคส่วน เช่น ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เภสัชกรรม และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น [1].
แนวความคิดในการพัฒนาเครื่องทำความเย็นมีหลายแนวทาง ซึ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การลดการใช้สารทำความเย็นที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ [1].
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องทำความเย็นให้มีขนาดเล็กลง และมีความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ในการเก็บรักษาวัคซีนหรือยาที่ต้องการอุณหภูมิที่เป็นเอกลักษณ์ [1].
Learn more:
เครื่องทำความเย็น: แนวความคิดและหลักการทำงาน
เครื่องทำความเย็น: แนวความคิดและหลักการทำงาน
เครื่องทำความเย็นเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์สำหรับเก็บรักษาอาหารและเครื่องดื่มให้สดใหม่ตลอดเวลา โดยการทำงานของเครื่องทำความเย็นนั้นเกี่ยวข้องกับหลักการทางฟิสิกส์ที่เรียกว่าหลักการระบายความร้อน ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้ในการลดอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้ต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอก โดยใช้สารทำความเย็นเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อนออกจากตู้เย็น [1].
หลักการทำงานของเครื่องทำความเย็น:
-
คอมเพรสเซอร์ (Compressor): เป็นส่วนที่สำคัญในการทำงานของเครื่องทำความเย็น ซึ่งมีหน้าที่อัดสารทำความเย็นให้มีความดันและอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้สารทำความเย็นเปลี่ยนสถานะจากแก๊สเป็นของเหลว [1].
-
ท่อแลกเปลี่ยนความร้อน: เครื่องทำความเย็นมีท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นคอยส์ร้อนและท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นคอยส์เย็น ท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นคอยส์ร้อนอยู่ด้านหลังตู้เย็น ซึ่งมีลักษณะขดไปมาเพื่อให้มีพื้นที่ผิวที่มากขึ้นเพื่อระบายความร้อนออกได้มากขึ้น ส่วนท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นคอยส์เย็นอยู่ภายในตู้เย็น ซึ่งมีลักษณะขดไปมาเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวที่มากขึ้นเพื่อรับความร้อนจากภายในตู้เย็น [1].
-
วาวล์ขยาย (Expansion Valve): เป็นส่วนที่ควบคุมการไหลของสารทำความเครื่องทำความเย็น: แนวความคิดและหลักการทำงาน
เครื่องทำความเย็นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการลดอุณหภูมิของสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ความเย็น ซึ่งมีการทำงานตามหลักการทางฟิสิกส์ โดยใช้หลักการที่ว่า ขณะที่ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส มันจะดูดความร้อน ทดลองทา อัลกฮอลล์ ลงบนผิว จะรู้สึกเย็น เพราะว่าอัลกฮอลล์ระเหยได้เร็ว มันจึงดูดความร้อนออกจากผิวและทำให้เกิดความเย็นขึ้น [1].
หลักการทำงานของเครื่องทำความเย็นมีดังนี้:
-
คอมเพรสเซอร์ (Compressor): เป็นส่วนที่ทำหน้าที่อัดสารทำความเย็นที่อยู่ในสถานะแก๊ส ทำให้อุณหภูมิและความดันเพิ่มขึ้น ผ่านไปยังคอยส์ร้อนที่อยู่ด้านหลังตู้เย็น ความร้อนถูกระบายออก [1].
-
ท่อแลกเปลี่ยนความร้อน (Coil): ตู้เย็นมีท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นคอยส์ร้อนและคอยส์เย็น ท่อคอยส์ร้อนมีลักษณะขดไปมาอยู่นอกตู้เย็น ในขณะที่ท่อคอยส์เย็นมีลักษณะขดไปมาอยู่ภายในตู้เย็น สารทำความเย็นไหลผ่านท่อแลกเปลี่ยนความร้อนเพื่อดูดความร้อนจากภายในตู้ออกมา และระบายความร้อนที่ได้รับจากคอยส์ร้อน [1].
-
วาวล์ขยาย (Expansion Valve): เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของสารทำความเย็น โดยทำให้ความดันลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สารทำความเย็นเปลี่ยนเป็นแก๊สในทันที [1].
-
สารทำความเย็น (Refrigerant): เป็นของเหลวที่ใช้ในการลดอุณหภูมิภายในตู้เย็น สารทำความเย็
Learn more:
ประโยชน์และการใช้งานของเครื่องทำความเย็น
ประโยชน์และการใช้งานของเครื่องทำความเย็น
เครื่องทำความเย็นเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากมายในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน สำนักงาน หรืออุตสาหกรรม ด้วยความสามารถในการลดอุณหภูมิและควบคุมความชื้นของอากาศ นี่คือประโยชน์และการใช้งานของเครื่องทำความเย็นที่สำคัญ:
-
ความเย็นและความสะอาดของอากาศ: เครื่องทำความเย็นช่วยลดอุณหภูมิในห้องและทำให้อากาศเย็นสะอาดขึ้น [1]. การลดอุณหภูมิช่วยลดความร้อนและความอับอากาศในห้อง ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและสบายตัวมากขึ้น นอกจากนี้ เครื่องทำความเย็นยังช่วยกรองฝุ่นละอองและสารปนเปื้อนอื่นๆ ในอากาศ เพื่อให้ได้รับอากาศสะอาดและสุขภาพดี [1].
-
ควบคุมความชื้น: เครื่องทำความเย็นสามารถควบคุมความชื้นในอากาศได้ ซึ่งเป็นประโยชน์สำคัญในการลดความอับอากาศและความชื้นที่สูงเกินไปในห้อง [1]. การควบคุมความชื้นช่วยลดการเกิดของรา และป้องกันการเสื่อมสภาพของวัสดุที่อาจเกิดจากความชื้นสูง เช่น ไม้เนื้ออ่อนหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า [1].
-
ประหยัดพลังงาน: เครื่องทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยประหยัดพลังงานได้มาก เนื่องจากมีการออกแบบให้ใช้พลังงานน้อยแต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ [2]. การประหยัดพลังงานช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการใช้พลังประโยชน์และการใช้งานของเครื่องทำความเย็น
เครื่องทำความเย็นเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากมายในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน สำนักงาน หรืออุตสาหกรรม ด้วยความสามารถในการลดอุณหภูมิและควบคุมความชื้นของอากาศ นี่คือประโยชน์และการใช้งานของเครื่องทำความเย็นที่สำคัญ:
-
ความเย็นในบ้านและสถานที่ทำงาน:
-
สุขภาพและความเป็นส่วนตัว:
-
อุตสาหกรรมและธุรกิจ:
Learn more:
หลักการเลือกเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสม
หลักการเลือกเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสม
การเลือกซื้อเครื่องทำความเย็นหรือแอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดสำหรับบ้านหรือสถานที่ของเรา ดังนั้นเราควรพิจารณาหลักการต่างๆ เพื่อให้สามารถเลือกเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสมได้อย่างถูกต้อง ดังนี้:
- พื้นที่ห้อง: การเลือกเครื่องทำความเย็นควรพิจารณาขนาดของห้องที่ต้องการใช้งาน หากเลือกเครื่องทำความเย็นที่มีขนาดเล็กเกินไปสำหรับห้องที่ใหญ่ อาจทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไปและไม่สามารถทำความเย็นทั่วถึงได้ ในทางกลับกันหากเลือกเครื่องทำความเย็นที่มีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับห้องที่เล็ก อาจทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานได้ ดังนั้นควรเลือกเครื่องทำความเย็นที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้อง [1].
- ห้องขนาด 9 – 12 ตร.ม. ควรใช้เครื่องปรับอากาศ 9,000 BTU
- ห้องขนาด 12 – 16 ตร.ม. ควรใช้เครื่องปรับอากาศ 12,000 BTU
- ห้องขนาด 16-24 ตร.ม. ควรใช้เครื่องปรับอากาศ 18,000 BTU
- ห้องขนาด 24 – 32 ตร.ม. ควรใช้เครื่องปรับอากาศ 24,000 BTU
- ประเภทของเครื่องทำความเย็น: เครื่องทำความเย็นมีหลายประเภทและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ควรพิจารณาประเภทของเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสมกับสถานที่ใช้งาน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำความเย็นที่ดีและประหยัดพลังงาน โดยประเภทของเครื่องทำความเย็นที่พบหลักการเลือกเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสม
การเลือกซื้อเครื่องทำความเย็นหรือแอร์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากเครื่องทำความเย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสำคัญในการบรรเทาอากาศร้อนในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทย ดังนั้นเราควรเลือกเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสมทั้งในเรื่องของราคาและคุณภาพการใช้งาน เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าและประหยัดพลังงาน
นี่คือหลักการเลือกเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสมที่ควรพิจารณา:
-
เลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละห้อง
- หากทราบขนาดห้องอย่างชัดเจนจะทำให้ง่ายต่อการเลือกเครื่องทำความเย็นที่มีความสามารถในการทำความเย็นที่เหมาะสม [1]
- เครื่องทำความเย็นแบบติดผนังหรือเครื่องทำความเย็นขนาดเล็กมักมีขนาดเริ่มต้นที่ 9,000 ถึง 24,000 BTU [1]
- ห้องขนาด 9-12 ตร.ม. ควรใช้เครื่องทำความเย็น 9,000 BTU
- ห้องขนาด 12-16 ตร.ม. ควรใช้เครื่องทำความเย็น 12,000 BTU
- ห้องขนาด 16-24 ตร.ม. ควรใช้เครื่องทำความเย็น 18,000 BTU
- ห้องขนาด 24-32 ตร.ม. ควรใช้เครื่องทำความเย็น 24,000 BTU
-
เลือกประเภทให้เหมาะสมกับสถานที่
-
ความประหยัดพลังงาน
- เล
Learn more:
วงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression System)
วงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression System) คืออะไร
ระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression System) เป็นระบบที่ใช้ในการทำความเย็นและปรับอุณหภูมิในอุตสาหกรรมและในที่อยู่อาศัย ระบบนี้ใช้หลักการทำงานของการอัดและขยายตัวของน้ำยาทำความเย็นเพื่อสร้างการถ่ายเทความร้อนออกจากพื้นที่หรือวัตถุที่ต้องการทำความเย็น โดยระบบนี้ประกอบด้วยอุปกรณ์หลักที่สำคัญคือ คอมเพรสเซอร์ (Compressor), คอนเดนเซอร์ (Condenser), คอยล์เย็น (Evaporator), และอุปกรณ์ควบคุมการไหล (Expansion Valve) [1].
วงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอมีขั้นตอนการทำงานดังนี้:
-
การอัด (Compression): น้ำยาทำความเย็นจะถูกดูดเข้าสู่คอมเพรสเซอร์ และคอมเพรสเซอร์จะทำหน้าที่อัดน้ำยาให้มีความดันสูงขึ้น ซึ่งทำให้น้ำยาเป็นไอน้ำยาที่มีความร้อนและความดันสูง [1].
-
การควบแน่น (Condensation): ไอน้ำยาที่ออกจากคอมเพรสเซอร์จะถูกส่งไปยังคอนเดนเซอร์ ที่นี่ไอน้ำยาจะถูกระบายความร้อนให้กับอากาศภายนอก ซึ่งทำให้ไอน้ำยาเปลี่ยนเป็นน้ำยาเหลวที่มีอุณหภูมิต่ำลง [1].
-
การขยายตัว (Expansion): น้ำยาเหลวที่ผ่านคอนเดนเซอร์จะไหลผ่านอุปกรณ์ควบคุมการไหล (Expansion Valve) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำยา ซึ่งทำให้น้ำยาขยายตัวและลดความดันลง ซึ่งทำให้น้ำยาเป็นไอน้ำยาที่มีอุณหภูมิต่ำลง [1].
-
การไหลผ่านคอยล์เย็น (Evaporation): ไอน้ำยาที่ผ่านอุปกรณ์ควบคุมการไหลจะไหลเข้าสู่คอยล์เย็น ที่นี่ไอน้ำยาจะดูดวงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression System) คืออะไร
วงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression System) เป็นระบบทำความเย็นที่ใช้ในการลดอุณหภูมิของพื้นที่หรือวัตถุให้ต่ำกว่าอุณหภูมิรอบๆ โดยใช้น้ำยาทำความเย็นเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อน ระบบนี้มีความสำคัญในการปรับอากาศและทำความเย็นในหลายๆ อุตสาหกรรมและสถานที่ เช่น อาคารพาณิชย์ โรงงาน ห้องเย็น ห้องเครื่อง รถยนต์ และอื่นๆ [1].
วงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอประกอบด้วยอุปกรณ์หลักที่มีหน้าที่แตกต่างกันดังนี้:
-
คอยล์เย็น (Evaporator): ทำหน้าที่ดูดความร้อนจากพื้นที่หรือวัตถุที่ต้องการทำความเย็น และเปลี่ยนความเย็นให้กับน้ำยาทำความเย็นให้กลายเป็นไอของน้ำยา [1].
-
คอมเพรสเซอร์ (Compressor): ทำหน้าที่ดูดน้ำยาทำความเย็นเข้ามาในระบบและอัดไอน้ำยาให้มีความดันสูง และอุณหภูมิสูง [1].
-
คอนเดนเซอร์ (Condenser): ทำหน้าที่ระบายความร้อนออกจากไอน้ำยาที่มีอุณหภูมิสูงให้กับอากาศภายนอกระบบ [1].
-
อุปกรณ์ควบคุมการไหล (Expansion Valve): ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำยาที่ไหลเข้าคอยล์เย็น [1].
วงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอน้ำยาทำงานตามขั้นตอนต่อไปนี้:
-
การขยายตัว (Expansion): น้ำยาทำความเย็นจะผ่านอุปกรณ์ควบคุมการไหลและขยายตัว ทำให้มีความดันต่ำและอุณหภูมิต่ำขึ้น [1].
-
การกลายเป็นไอ (Vaporization): น้ำยาทำความเย็นจะถูกดูดความร้อนจากพื้นที่หรือวัตถุที่ต้อง
Learn more:
เครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ: องค์ประกอบหลักและการทำงาน
เครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ: องค์ประกอบหลักและการทำงาน
เครื่องทำความเย็นแบบอัดไอเป็นระบบที่ใช้ในการปรับอุณหภูมิและความชื้นของอากาศในห้องหรือพื้นที่ให้เป็นไปตามที่ต้องการ ระบบนี้มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญซึ่งประกอบด้วยคอมเพรสเซอร์ (compressor) คอนเดนเซอร์ (condenser) อีแวปปอเรเตอร์ (evaporator) และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ [1].
องค์ประกอบหลักของเครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ:
-
คอมเพรสเซอร์ (Compressor): คอมเพรสเซอร์เป็นหน่วยที่ทำหน้าที่ดูดและอัดสารทำความเย็นที่เป็นแก๊ส โดยการอัดสารทำความเย็นจะทำให้เกิดความดันของน้ำยาสูงขึ้น [1].
-
คอนเดนเซอร์ (Condenser): คอนเดนเซอร์มีหน้าที่เปลี่ยนสถานะของสารทำความเย็นจากแก๊สเป็นของเหลว โดยการระบายความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบออกไปยังสภาพแวดล้อม [1].
-
อีแวปปอเรเตอร์ (Evaporator): อีแวปปอเรเตอร์มีหน้าที่เปลี่ยนสถานะของสารทำความเย็นจากของเหลวเป็นแก๊ส โดยการดูดความร้อนจากอากาศในห้องและรอบๆ อีแวปปอเรเตอร์ ทำให้อากาศภายในห้องมีอุณหภูมิลดลง [1].
การทำงานของเครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ:
-
ขั้วต่อไฟฟ้าจะส่งกระแสไฟฟ้าไปยังคอมเพรสเซอร์เพื่อให้เครื่องทำความเย็นเริ่มทำงาน [2].
-
คอมเพรสเซอร์จะดูดสารทำความเย็นที่เป็นแก๊สเข้ามา และอัดสารทำความเย็นให้มีความดันสูงขึ้น [1].
-
สารทำความเย็นที่อัดจะถูกส่งไปยเครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ: องค์ประกอบหลักและการทำงาน
เครื่องทำความเย็นแบบอัดไอเป็นระบบที่ใช้ในการปรับอุณหภูมิและความชื้นของอากาศในห้องหรือพื้นที่ให้เป็นไปตามที่ต้องการ ระบบนี้มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญซึ่งประกอบด้วยคอมเพรสเซอร์ (compressor) คอนเดนเซอร์ (condenser) อีแวปปอเรเตอร์ (evaporator) และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ [1].
องค์ประกอบหลักของเครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ:
- คอมเพรสเซอร์ (Compressor): คอมเพรสเซอร์เป็นหน่วยที่ทำหน้าที่ดูดและอัดสารทำความเย็นที่เป็นแก๊ส โดยการอัดสารทำความเย็นจะทำให้เกิดความดันของน้ำยาสูงขึ้น [1].
- คอนเดนเซอร์ (Condenser): คอนเดนเซอร์มีหน้าที่เปลี่ยนสถานะของสารทำความเย็นจากแก๊สเป็นของเหลว โดยการระบายความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบ [1].
- อีแวปปอเรเตอร์ (Evaporator): อีแวปปอเรเตอร์มีหน้าที่เปลี่ยนสถานะของสารทำความเย็นจากของเหลวเป็นแก๊ส โดยการดูดความร้อนจากอากาศและเปลี่ยนเป็นความเย็น [1].
การทำงานของเครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ:
- ขั้วต่อไฟฟ้าให้กับเครื่องทำความเย็นแบบอัดไอเพื่อให้เริ่มทำงาน
- คอมเพรสเซอร์จะทำหน้าที่ดูดสารทำความเย็นที่เป็นแก๊สเข้ามาและอัดเพื่อเพิ่มความดัน
- สารทำความเย็นที่อัดจะไหลผ่านคอนเดนเซอร์เพื่อระบายความร้อนที่เกิดขึ้น
- สารทำความเย็นที่เป็นของเหลวจะไหลผ่านอีแวปปอเรเตอร์และเปลี่ย
Learn more:
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรม
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรม
เครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในกระบวนการผลิตและการบำรุงรักษาในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งมีหลายประเภทและใช้งานในสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ไปจนถึงโรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือห้องเย็นในโรงพยาบาล โรงแรม หรือร้านอาหาร เพื่อให้สินค้าหรือวัตถุดิบที่ต้องการเก็บรักษามีความสดใหม่และคงความเย็นได้ตลอดเวลา
เครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรมทำงานโดยใช้หลักการของวงจรทำความเย็นแบบอัดไอ ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีหน้าที่แตกต่างกันในกระบวนการทำความเย็น ดังนี้:
-
คอมเพรสเซอร์ (Compressor): เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการดูดและอัดสารทำความเย็นในสถานะก๊าซ ซึ่งจะทำให้ความดันของสารทำความเย็นเพิ่มขึ้น และเมื่อความดันน้ำยาสูงขึ้น จุดเดือดของสารทำความเย็นก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย [3].
-
คอนเดนเซอร์ (Condenser): เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบแน่นสารทำความเย็น โดยเปลี่ยนสารทำความเย็นจากสถานะก๊าซเป็นสถานะของของเหลว ซึ่งจะช่วยให้สารทำความเย็นเก็บความเย็นได้ดีขึ้น [3].
-
เอวาโปเรเตอร์ (Evaporator): เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการลดอุณหภูมิของสารทำความเย็น โดยให้สารทำความเย็นเปลี่ยนจากสถานะของของเหลวเป็นสถานะก๊าซ ซึ่งจะดึงความร้อนจากสิ่งแวดล้อมและสารทำคความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรม
เครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในกระบวนการผลิตและการบำรุงรักษาในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งมีหลายประเภทและใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อให้คุณได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรม นี่คือข้อมูลที่คุณอาจสนใจ:
-
ประเภทของเครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรม:
- ระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression System): เป็นระบบที่ใช้สารทำความเย็นเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อน โดยมีองค์ประกอบหลักคือคอมเพรสเซอร์ (compressor), คอนเดนเซอร์ (condenser), หม้อไอน้ำ (evaporator), และหม้อรวม (receiver). ระบบนี้ใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง, อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม, อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ, และอุตสาหกรรมเครื่องจักร.
- ระบบทำความเย็นแบบดูดซับความร้อน (Absorption Refrigeration System): เป็นระบบที่ใช้สารทำความเย็นเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อน โดยมีองค์ประกอบหลักคือเครื่องดูดซับ (absorber), เครื่องกำจัดความร้อน (generator), เครื่องรวม (condenser), และเครื่องระบายความร้อน (evaporator). ระบบนี้มักใช้ในอุตสาหกรรมที่มีการใช้เชื้อเพลิงเป็นแหล่งพลังงาน เช่น อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ.
-
การทำงานของเครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรม:
- ระบบทำความเย็นแบบอัดไอ: ในระบบนี้ คอมเพรสเซอร์ทำหน้าที่ดูดสารทำความเย็นเข้ามาแ
Learn more:
Categories: สำรวจ 73 เครื่องทําความเย็น ภาษาอังกฤษ
refrigerator. (n) เครื่องทำความเย็น, ตู้เย็นตู้เย็น ภาษาอังกฤษคือ refrigerator แต่ภาษาพูดเรียกสั้นๆว่า fridge.
- การทำความเย็นแบบอัดไอหรือระบบคอมเพรสเซอร์อัดไอ ( Vaporcompression system)
- การทำความเย็นแบบระบบแอบซอร์ปชันหรือแบบดูดซึม ( Absorption system )
- ระบบการทำความเย็นโดยการทำให้สารทำความเย็นระเหย
- ระบบการทำความเย็นแบบใช้น้ำแข็ง
- ระบบการทำความเย็นแบบใช้น้ำแข็งแห้ง
- 1. คอมเพรสเซอร์ (Compressor) …
- 2. คอนเดนเซอร์ (Condenser) หรือ คอยล์ร้อน …
- 3. อุปกรณ์ลดความดัน (Expansion Device) …
- 4. อีวาเปอเรเตอร์ (Evaporator) หรือ คอยล์เย็น …
- 5. อุปกรณ์อื่น ๆ
- 1. Evaporator หรือคอยล์เย็น
- 2. Compressor หรือเครื่องอัดไอ
- 3. Condenser หรือคอยล์ร้อน
- 4. Expansion Valve วาล์วลดความดัน
- 5. Refrigerant สารทำความเย็น
- การผลิตอาหาร (Food processing)
- การเก็บรักษาอาหาร (Food Storage)
- การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial process)
See more: https://hocxenang.com/category/money
Fridge กับ Refrigerator ต่างกันอย่างไร
ตู้เย็นและเครื่องทำความเย็น (Refrigerator vs Fridge) ต่างกันอย่างไร
ในภาษาอังกฤษ, คำว่า ตู้เย็น แปลว่า refrigerator ซึ่งเป็นคำที่ใช้ในภาษาเขียนและภาษาทางเทคนิค ในทางกลับกัน, คำว่า fridge เป็นคำที่ใช้ในภาษาพูดเพื่ออธิบายเครื่องทำความเย็นที่ใช้ในบ้านหรือที่ทำงานอย่างเป็นทางการ [1].
ความแตกต่างระหว่างตู้เย็น (refrigerator) และเครื่องทำความเย็น (fridge) อยู่ที่ความขนาดและการใช้งาน [1]. ตู้เย็น (refrigerator) มักมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องทำความเย็น (fridge) และมีความจุในการเก็บรักษาอาหารและเครื่องดื่มที่มากกว่า [1]. นอกจากนี้, ตู้เย็น (refrigerator) มักมีคุณสมบัติเสริมเพิ่มเติม เช่น ตู้แช่เนื้อสัตว์, ลิ้นชักเก็บผักผลไม้, และเครื่องทำน้ำแข็ง [1].
อีกทั้ง, เครื่องทำความเย็น (fridge) มักมีขนาดเล็กกว่าและเหมาะสำหรับใช้ในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ห้องพักหรืออพาร์ทเมนต์ [1]. การออกแบบของเครื่องทำความเย็น (fridge) มักเน้นความสะดวกสบายและความเรียบง่ายในการใช้งาน [1].
ดังนั้น, คำว่า ตู้เย็น (refrigerator) และ เครื่องทำความเย็น (fridge) ในภาษาอังกฤษมีความแตกต่างกันในเชิงขนาดและการใช้งาน [1].
Learn more:
ระบบทำความเย็นมีกี่ประเภท
ระบบทำความเย็นมีหลายประเภทตามหลักการทำงานของเครื่องทำความเย็น ดังนี้:
-
ระบบคอมเพรสเซอร์อัดไอ (Vapor Compression System): ระบบนี้ใช้คอมเพรสเซอร์ในการอัดและบีบอัดน้ำยาทำความเย็นเพื่อสร้างแรงดันและเปลี่ยนสภาพของน้ำยาให้เป็นไอ น้ำยาทำความเย็นจะไหลเวียนในระบบปิดอยู่ตลอดเวลา [3].
-
ระบบแอบซอร์ปชันหรือระบบดูดซึม (Absorption System): ระบบนี้ใช้กระบวนการดูดซึมในการทำความเย็น โดยใช้สารทำความเย็นในการดูดซึมและเปลี่ยนสภาพเพื่อสร้างความเย็น [3].
-
ระบบการทำความเย็นโดยการทำให้สารทำความเย็นระเหย: ระบบนี้ใช้กระบวนการทำให้สารทำความเย็นระเหยเพื่อลดอุณหภูมิ และรักษาอุณหภูมิของพื้นที่หรือวัตถุที่ต้องการทำความเย็น [3].
-
ระบบการทำความเย็นแบบใช้น้ำแข็ง: ระบบนี้ใช้น้ำแข็งในการถ่ายเทความร้อนเพื่อลดอุณหภูมิ และรักษาอุณหภูมิของพื้นที่หรือวัตถุที่ต้องการทำความเย็น [3].
-
ระบบการทำความเย็นแบบใช้น้ำแข็งแห้ง: ระบบนี้ใช้น้ำแข็งแห้งในการลดอุณหภูมิ และรักษาอุณหภูมิของพื้นที่หรือวัตถุที่ต้องการทำความเย็น [3].
Learn more:
See more here: hocxenang.com
สารบัญ
เครื่องทำความเย็น: แนวความคิดและหลักการทำงาน
ประโยชน์และการใช้งานของเครื่องทำความเย็น
หลักการเลือกเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสม
วงจรระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression System)
เครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ: องค์ประกอบหลักและการทำงาน
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องทำความเย็นในอุตสาหกรรม